บทความ 11 ความลับที่น่าสนใจ เกี่ยวกับอุณหภูมิในร่างกาย

จะรู้ได้ไงว่าอุณหภูมิร่างกายเป็น “ปกติ” หรืออุณหภูมิที่เป็นไข้ เรื่องนั้นไม่สำคัญเกี่ยวกับอุณหภูมินี้อาจทำให้คุณประหลาดใจ กับความลับเหล่านี้

อุณหภูมิร่างกาย สามารถเปิดเผยได้มากมายเกี่ยวกับสุขภาพของคุณ อุณหภูมิของร่างกายเป็น หนึ่งในสี่สัญญาณ สำคัญที่แพทย์ การติดเชื้ออาจทำให้เกิดไข้ได้ แต่อุณหภูมิของร่างกายก็ผันผวนตามอายุเพศ และแม้กระทั่งเวลาที่โกหก เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับ อุณหภูมิร่างกายปกติไข้ และปัจจัยอื่น ๆ ที่ส่งผลต่อความร้อนในร่างกาย

1. เท่าไรที่เรียกว่าเป็น อุณหภูมิในร่างกายนั้นปกติ

โดยทั่วไปอุณหภูมิของร่างกายปกติจะอยู่ที่ 37 องศาเซสเซียส ตามข้อมูลของหอสมุดแห่งชาติการแพทย์ แต่อุณหภูมิของร่างกาย “ปกติ” อาจอยู่ในช่วง 36 องศาเซลเซียส ถึง 37 องศาเซลเซียส และสิ่งนี้คือเป็นปกติสำหรับ แต่อาจสูง หรือต่ำกว่าอุณหภูมิร่างกายโดยเฉลี่ยเพียงเล็กน้อย

ร่างกายของคุณปรับอุณหภูมิตามสภาพแวดล้อมอยู่เสมอ ตัวอย่างเช่น อุณหภูมิของร่างกายจะเพิ่มขึ้นเมื่อขณะออกกำลังกาย และหากตรวจสอบอุณหภูมิด้วยเทอร์โมมิเตอร์ จะเห็นได้ว่าอุณหภูมิในช่วงบ่าย และเย็นจะสูงกว่าสิ่งแรกในตอนเช้าเมื่อคุณสูงขึ้นตามข้อมูล

ทารก และเด็กเล็กมีอุณหภูมิร่างกายสูงกว่าเด็กโต และผู้ใหญ่เนื่องจากพื้นที่ผิวของร่างกายมีขนาดใหญ่ขึ้นเมื่อเทียบกับน้ำหนักของพวกเขา และการเผาผลาญอาหารก็ทำงานได้ดีกว่า ทารกแรกเกิดมีอุณหภูมิร่างกายเฉลี่ย 37 องศาเซลเซียส

2. ไข้คืออะไร

ไข้เป็นการเพิ่มอุณหภูมิร่างกาย และมักสร้างความเจ็บป่วย อุณหภูมิในหลอดเลือดทวารหนัก จะอยู่ที่ 37 องศาเซลเซียส หรือสูงกว่ามักบ่งชี้ว่ามีไข้

ไข้มักจะบรรเทาลงภายในสองสามวัน หากคุณมีไข้คุณอาจพบอาการดังต่อไปนี้

• หนาวสั่นและตัวสั่น
• เหงื่อออก
• ปวดหัว
• อาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ
• สูญเสียความกระหาย
• ความหงุดหงิด
• การคายน้ำ
• ความอ่อนแอทั่วไป

สำหรับผู้ใหญ่ที่มีอุณหภูมิของร่างกาย 39 องศาเซลเซียส หรือสูงกว่า ควรเริ่มกังวล และโทรไปหาแพทย์ตามข้อมูล การโทรหาแพทย์หากมีไข้ร่วมด้วย อาจมีอาการปวดหัวอย่างรุนแรง ผื่นที่ผิวหนังผิดปกติ ความไวผิดปกติต่อแสงจ้า คอเคล็ด และปวดเมื่อก้มศีรษะไปข้างหน้า ความสับสนทางจิตใจ อาเจียนอย่างต่อเนื่อง หายใจลำบาก หรือเจ็บหน้าอก ปวดท้อง หรือปวดเมื่อปัสสาวะ หรือชักหรือชัก

สำหรับทารก และเด็กเล็กอุณหภูมิที่สูงกว่าปกติเพียงเล็กน้อยอาจเป็นสัญญาณของการติดเชื้อร้ายแรงตาม ควรรีบโทรหาแพทย์ของคุณหากบุตรของคุณอายุน้อยกว่า 3 เดือน และมีอุณหภูมิทางทวารหนัก 39 องศาเซลเซียส หรือสูงกว่า

อายุระหว่าง 3 ถึง 6 เดือนและมีอุณหภูมิทางทวารหนักสูงถึง 39 องศาเซลเซียส และดูเหมือนจะเริ่มมีอาการหงุดหงิดเซื่องซึม หรืออึดอัดหรือมีอุณหภูมิสูงกว่า 39 องศาเซลเซียส หรือระหว่าง 6 ถึง 24 เดือน อุณหภูมิในทางทวารหนักสูงกว่า 39 องศาเซลเซียสซึ่งกินเวลานานกว่าหนึ่งวัน

หากลูกของคุณอายุ 2 ปีขึ้นไปให้โทรติดต่อแพทย์ของคุณ หากพวกเขามีไข้นานกว่าสามวัน หรือหากพวกเขาดูเหมือนไม่ตอบสนองต่อคุณ

เด็กเล็กอายุตั้งแต่ 6 เดือนถึง 5 ปีอาจมีอาการชักจากไข้ที่มีอุณหภูมิร่างกายสูงซึ่งมักเกี่ยวข้องกับการสูญเสียสติ และการสั่นของแขนขา ทั้งสองข้างของร่างกาย โทรขอรับการปรึกษาทางการแพทย์ในกรณีฉุกเฉิน หากอาการชักเป็นเวลานานกว่าห้านาที หรือพาลูกของคุณไปพบแพทย์โดยเร็วที่สุด เพื่อหาสาเหตุ

3. ไข้สามารถช่วยคุณต่อสู้ กับการติดเชื้อได้

คนส่วนมากต้องเคยเป็นไข้ แต่ก็มีประโยชน์จริง ๆ ยาที่ไม่ต้องสั่งโดยแพทย์หลายชนิดสามารถลดไข้ได้ แต่บางครั้งก็ยังดีกว่าที่จะไม่ได้รับการรักษา เนื่องจากไข้ดูเหมือนจะมีบทบาทสำคัญ การช่วยให้ร่างกายของคุณต่อสู้กับการติดเชื้อ อย่างไรก็ตามแพทย์ของคุณอาจสั่งจ่ายยาปฏิชีวนะ หากสงสัยว่ามีการติดเชื้อแบคทีเรียเช่นปอดบวม หรือคออักเสบ

4. อุณหภูมิของร่างกาย ที่คุณควรระวังด้วย โคโรนาไวรัส

ไข้เป็นปัจจัยนึงในอาการของ โควิด 19 ซึ่งเป็นความเจ็บป่วยที่เกิดจากไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ ตามข้อมูลของศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค อุณหภูมิร่างกายต่ำไม่ใช่อาการของ โควิด 19

หากคุณคิดว่าคุณอาจได้รับเชื้อโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ ขอแนะนำให้วัดอุณหภูมิวันละสองครั้ง เพื่อดูว่าคุณมีไข้  กำหนดไข้เป็น 38 องศาเซลเซียส หรือสูงกว่า

หากคุณมีเด็กอายุน้อยกว่า 4 ปี ให้ใช้เทอร์โมมิเตอร์วัดอุณหภูมิทางหูเพื่อวัดอุณหภูมิของเด็ก หรือวางเทอร์โมมิเตอร์ปกติไว้ใต้แขนของเด็กที่กึ่งกลางรักแร้ แนะนำหากอุณหภูมิรักแร้ของบุตรหลานอยู่ที่ 37 องศาเซลเซียส หรือสูงกว่า แสดงว่ามีไข้

มีอุณหภูมิร่างกายสูงหรือมีอาการอื่น ๆ ของ โควิด 19 และต้องการเข้ารับการตรวจ ให้โทรติดต่อหน่วยงานสาธารณสุขในพื้นที่ หรือผู้ให้บริการทางการแพทย์ คนส่วนใหญ่ที่เป็น โควิด 19 มีอาการเจ็บป่วยเล็กน้อย และสามารถพักฟื้นที่บ้านได้

5. ผู้สูงอายุจะมีอาการหนาวกว่า ถ้าเทียบกับอุณหภูมิปกติ

หากรู้เหมือนว่าขี้หนาวอยู่ตลอด แม้ในช่วงฤดูร้อน ก็ยังเป็นอยู่ การศึกษาแสดงให้เห็นว่า เมื่อเราอายุมากขึ้นอุณหภูมิร่างกายโดยเฉลี่ยจะลดลงเล็กน้อย การศึกษาที่ตีพิมพ์ในวารสารการพยาบาลทางคลินิก ที่วัดอุณหภูมิร่างกายของผู้อยู่อาศัยในบ้านพักคนชราใน 133 คน พบว่าอุณหภูมิของร่างกายต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในผู้ที่มีอายุ 65 ถึง 74 ปี ลดลงแม้ในคนในอายุ 75 ถึง 84 ปี และต่ำที่สุดในบรรดาผู้ที่มีอายุมากกว่า 85 ปี บางคนอาจมีอุณหภูมิร่างกายต่ำถึง 33 องศาเซลเซียส ภายใต้สถานการณ์ปกติ สิ่งนี้เป็นสิ่งสำคัญที่ควรทราบเนื่องจากผู้สูงอายุ อาจมีไข้ที่อุณหภูมิต่ำกว่าผู้ใหญ่ที่อายุน้อยกว่า

6. ผู้ชาย และผู้หญิงมีอุณหภูมิร่างกายต่างกัน

อาจมีบางอย่าง ที่กล่าวว่าในการศึกษาที่ นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยยูทาห์ในซอลต์เลกซิตี พบว่าอุณหภูมิร่างกายของผู้หญิงโดยเฉลี่ยสูงกว่าผู้ชาย 0.2 องศาเซลเซียส (36.5 เทียบกับ 36.7) แต่มือของผู้หญิงเย็นกว่าผู้ชาย ค่าเฉลี่ย 1 องศาเซลเซียส คือ 35.2 องศาเซลเซียส เทียบกับ 36.2 องศาเซลเซียส กับผู้ชาย

7. หมวกอาจไม่เพียงพอ ที่จะช่วยให้คุณรักษาความร้อนในร่างกายได้

จำได้ไหม มีคนบอกให้คุณสวมหมวก เมื่ออากาศข้างนอกหนาว เพราะความร้อนในร่างกายส่วนใหญ่จะสูญเสียไปทางศีรษะจริงหรือป่าว

ปรากฏว่าคำแนะนำของคนทั่วไป อาจไม่ตรงจุดตามบทความที่ตีพิมพ์ในวารสารทางการแพทย์ จากการศึกษาพบว่าศีรษะ ไม่มีอะไรโดดเด่นเมื่อสูญเสียความร้อน ส่วนใดของร่างกายที่ไม่ได้รับการปกปิด จะสูญเสียความร้อน และจะทำให้อุณหภูมิแกนกลางของร่างกายลดลงตามสัดส่วน

8. การพูดโกหกอาจทำให้อุณหภูมิของคุณเปลี่ยนไป

การตรวจวัด จะไม่ทำให้จมูกของคุณโตขึ้น แต่จะทำให้อากาศหนาวขึ้น แม้จะมีความแตกต่างกับเรื่องเล่าของเด็ก ๆ แต่นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยในสเปน พวกเขาใช้การถ่ายภาพความร้อน เพื่อแสดงให้เห็นว่าความวิตกกังวลที่เกิดจากการโกหก ทำให้อุณหภูมิของจมูกลดลง และบริเวณรอบ ๆ หน้าผากเพิ่มขึ้น

9. พริกแดง ทำให้อุณหภูมิของร่างกายสูงขึ้น

หากชอบอาหารรสเผ็ด จะทำให้อุณหภูมิร่างกายสูงขึ้น และการเผาผลาญมากขึ้ย มีผู้เข้าร่วมโดยการเพิ่มพริกแดงประมาณ 1 กรัมลงในอาหาร อุณหภูมิแกนกลางของจะร่างกายสูงขึ้น แต่อุณหภูมิผิวจะต่ำลง ผู้วิจัยได้ตั้งทฤษฎีว่าการผลิตความร้อนที่เพิ่มขึ้นพร้อม กับความรู้สึกอยากอาหารที่ลดลงแสดงให้เห็นถึงประโยชน์ที่อาจเกิดขึ้นจากการบริโภคพริกแดง สำหรับผู้ที่พยายามควบคุมน้ำหนัก โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่มักไม่รับประทานอาหารรสเผ็ด

10. หัวใจเย็นชา สามารถปกป้องสมองของคุณได้

อุณหภูมิในการรักษา เป็นวิธีการรักษาแบบหนึ่ง ที่บางครั้งใช้สำหรับผู้ที่มีภาวะหัวใจหยุดเต้น เมื่อหัวใจเริ่มเต้นอีกครั้ง ผู้ให้บริการด้านสุขภาพจะใช้อุปกรณ์ทำความเย็น เพื่อลดอุณหภูมิร่างกายของผู้ป่วย ให้อยู่ที่ประมาณ 32 ถึง 34 องศาเซลเซียส การลดอุณหภูมิของร่างกายทันที หลังจากที่หัวใจหยุดเต้นสามารถลดความเสียหายต่อสมอง และเพิ่มโอกาสที่บุคคลนั้นจะฟื้นตัว

11. อุณหภูมิของร่างกายสามารถช่วยระบุเวลาเสียชีวิตได้

นี่ไม่ใช่แค่พิสูจน์เท่านั้น หลังจากที่คนเราเสียชีวิตไปแล้ว จะไม่สร้างความร้อนในร่างกายอีกต่อไป และร่างกายจะเย็นลงอย่างช้า ๆ กระบวนการนี้เรียกว่า “อัลกอร์มอร์ทิส” ใช้เป็นเครื่องมือในการสืบสวน ทางนิติวิทยาศาสตร์เพื่อประเมินว่าคน ๆ หนึ่งเสียชีวิตไปนานแค่ไหนหลังจากพบศพ แต่ปัจจัยต่าง ๆ ส่งผลต่ออุณหภูมิของร่างกายดังนั้นจึงไม่ใช่เทคนิคที่น่าเชื่อถือหรือแม่นยำโดยสิ้นเชิง

อ่านบทความเพิ่มเติม

วิธีป้องกันตะคริวก่อนออกกำลังกาย

Sports Drinks (เครื่องดื่มในการกีฬา) และ การออกกำลังกาย