การเลือกรองเท้า ออกกำลังกาย ใน ฟิตเนส ( Fitness )

Share : facebook_share google_share
line_share
twitter_share messenger_share

บทความ การเลือกรองเท้า ออกกำลังกาย ใน ฟิตเนส ( Fitness )

การเลือกรองเท้า ออกกำลังกาย ใน ฟิตเนส ( Fitness )



การ ออกกำลังกาย ใน ฟิตเนส ( Fitness ) แต่ละชนิดคุณควรใช้รองเท้าที่เหมาะสม เพราะมันจะช่วยซับพอร์ตเท้า และ การทรงตัวของเราไม่ให้เกิดอาการบาดเจ็บได้ มาดูกันว่าคุณควรเลือกรองเท้าเหล่านี้ยังไง

 

     รองเท้า ออกกำลังกาย เลือกอย่างไรถึงจะเหมาะสมกับคนที่สวมใส่ ? อาจเป็นคำถามที่หลายคนสงสัยว่าควรเลือกอย่างไรดีนะ นอกจากรูปแบบการ ออกกำลังกาย แล้วควรคำนึงถึงสิ่งใดบ้าง หรือ จะทราบได้อย่างไรว่ารองเท้า ออกกำลังกาย คู่นั้นจะเหมาะสมกับตนเอง เราได้รวบรวมวิธีต่าง ๆ ที่สามารถนำไปปรับใช้เมื่อต้องเลือกซื้อรองเท้า ออกกำลังกาย คู่ใหม่มาให้ทุกคนได้ศึกษากันด้วยค่ะ

 

     รองเท้า ออกกำลังกาย ถือเป็นอุปกรณ์สำคัญเมื่อต้อง ออกกำลังกาย ไม่ว่าจะเป็นการเดิน การวิ่ง การเล่นกีฬา หรือ คลาส ออกกำลังกาย อื่น ๆ รองเท้า ออกกำลังกาย เป็นอุปกรณ์ที่ออกแบบมาสำหรับรองรับน้ำหนัก และ การเคลื่อนไหวของร่างกาย ซึ่งจะช่วยลดความเสี่ยงของการบาดเจ็บได้ โดยการ ออกกำลังกาย แต่ละชนิดก็มีการเคลื่อนไหว และ แรงที่ใช้ต่างกัน ดังนั้น การเลือกรองเท้า ออกกำลังกาย ให้เหมาะสมกับชนิดของการ ออกกำลังกาย จึงอาจช่วยให้ร่างกายได้รับประโยชน์สูงสุดจากกิจกรรมนั้น ๆ

 

ทำไมรองเท้าสำหรับ ออกกำลังกาย ถึงสำคัญ

     นัก ฟิตเนส ( Fitness ) มืออาชีพหรือนักกีฬามืออาชีพ ถ้าสำรวจข้อมูลเชิงลึกจะมีรองเท้า ออกกำลังกาย หลายคู่ ไม่ใช่เพียงเพราะเหตุผลพื้นฐานทางด้านสุขภาพเท่านั้นแต่ยังเกี่ยวข้องกับภูมิคุ้มกันอีกด้วยคือ เมื่อเรากำลัง ออกกำลังกาย ภูมิคุ้มกันในร่างกายของเราจะลดระดับลง และ ถ้าเราสวมรองเท้าคู่เดิมที่เราใช้ ออกกำลังกาย ภายนอกมันจะไม่ถูกหลักอนามัย และ ความไม่ถูกสุขอนามัยนี้อาจทำให้เกิดเป็นสาเหตุให้เรามีโอกาสเจ็บป่วยได้ อีกหนึ่งเหตุผลของการสวมใส่รองเท้าใน ฟิตเนส ( Fitness ) หรือ ยิม ก็คือความปลอดภัย เราไม่สามารถวิ่งบนลู่วิ่งได้โดยปราศจากรองเท้า เหตุผลที่สอง คือ เราต้องเข้ายิมในหลากหลายโซนอย่างเช่น โซนฟรีเวทที่มีดัมเบลเยอะ ๆ มุมที่แผ่นน้ำหนักเยอะ คลาสเต้น มันจะปลอดภัยกว่าเมื่อใส่รองเท้าเข้าไปในโซนต่าง ๆ เหล่านี้เป็นการหลีกเลี่ยงการบาดเจ็บทุกชนิด เช่น ดัมเบลหล่นใส่เท้า หรือ เหตุอื่น ๆ ที่อาจเกิดขึ้นได้

 

วิธีเลือกซื้อรองเท้า ออกกำลังกาย ให้เหมาะสม

     การเลือกรองเท้า ออกกำลังกาย ให้เหมาะสมมีหลักในการเลือกง่าย ๆ  ดังนี้

1. เลือกรองเท้าให้เหมาะสมกับกิจกรรม

     อย่างที่ได้กล่าวไปว่ารูปแบบการ ออกกำลังกาย แต่ละชนิดมีลักษณะการเคลื่อนไหว และ แรงกระแทกที่เกิดขึ้นต่างกัน เราจึงควรเลือกรองเท้าที่เหมาะสม และ สอดคล้องกับกิจกรรมนั้นให้ได้มากที่สุด เพื่อสุขภาพ และ ความคล่องตัว โดยการเลือกรองเท้า ออกกำลังกาย ตามรูปแบบการ ออกกำลังกาย ดังนี้

  • รองเท้าวิ่ง

     การวิ่งเป็นกิจกรรมที่หลายคนนิยมเป็นอย่างมาก การเลือกรองเท้าวิ่งควรเลือกรองเท้าที่ดูดซับแรงกระแทกได้ดี มั่นคง มีน้ำหนักเบา และ ยืดหยุ่น นอกจากนี้เราไม่ควรเลือก หรือ สวมรองเท้าวิ่งที่แน่นจนเกินไปเพราะจะทำให้เสียดสี และ เป็นแผลตามนิ้วเท้าได้

  • รองเท้าเทรนนิ่ง

     การ ออกกำลังกาย ในรูปแบบเทรนนิ่ง หรือ การฝึกกล้ามเนื้อให้เกิดความแข็งแรง การ ออกกำลังกาย ในรูปแบบนี้อาจต้องยกอุปกรณ์ออกกำลังที่มีน้ำหนักมาก จึงต้องการพื้นรองเท้าที่สามารถช่วยรับน้ำหนักได้ มีการยึดเกาะที่ดี ส้นรองเท้าควรทำจากยางเพื่อยึดติดกับตัวพื้น และ มีขนาดที่ไม่หนาจนเกินไป

  • รองเท้าสำหรับกีฬาคอร์ท

     กีฬาคอร์ทอย่างเทนนิส วอลเลย์บอล หรือ บาสเกตบอล เราควรเลือกส้นรองเท้าที่มั่นคงสามารถรองรับเท้าเมื่อเคลื่อนไหวไปตามทิศทางต่าง ๆ ได้ดี ไม่ว่าจะเป็นด้านข้าง ด้านหน้า หรือ ด้านหลัง อย่างไรก็ตาม กีฬาคอร์ทแต่ละชนิดก็มีรูปแบบการเคลื่อนไหวที่แตกต่างกัน จึงควรปรึกษาพนักงานขาย หรือ ผู้เชี่ยวชาญเพื่อที่จะได้คำแนะนำที่ถูกต้อง

  • รองเท้าสำหรับกีฬากลางแจ้ง

     ผู้ที่เล่นกีฬากลางแจ้งที่ต้องเล่นสนามหญ้า เช่น ฟุตบอล ควรเลือกรองเท้าที่มีปุ่ม หรือ สตั๊ดบริเวณใต้พื้นรองเท้า จะช่วยให้เคลื่อนไหวได้ดีขึ้น เนื่องจากพื้นรองเท้าจะช่วยยึดเกาะกับพื้นหญ้า ทำให้เราไม่ลื่นในสนามหญ้า

2. ทราบลักษณะเท้าตนเอง

     โดยปกติแล้วลักษณะฝ่าเท้าของเราสามารแบ่งออกได้เป็น 3 ลักษณะ คือ อุ้งเท้าสูง ฝ่าเท้าปกติ และ เท้าแบน ซึ่งการทราบลักษณะเท้าของตนเอง อาจมีส่วนช่วยให้เราเลือกรองเท้าที่เหมาะสมได้ และ อาจช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดการบาดเจ็บ และ การเสื่อมของเท้าได้ด้วย

     โดยผู้ที่มีลักษณะเท้าแบบปกติควรเลือกสวมรองเท้าที่ช่วยเสริมความมั่นคงให้กับเท้า รวมทั้งมีคุณสมบัติดูดซับแรงกระแทก และ ช่วยพยุงเท้าได้ดี

     ผู้ที่มีอุ้งเท้าสูง ควรเลือกรองเท้าที่พื้นรองเท้าช่วยดูดซับแรงกระแทกได้ดี รวมทั้งมีพื้นรองเท้าที่รองรับความโค้งตัวของฝ่าเท้าได้ เพราะเท้าในลักษณะนี้อาจทำให้ขอบส้นเท้าด้านนอก และ นิ้วก้อยเท้าสึกหรอได้

     ผู้ที่ฝ่าเท้าแบนควรเลือกรองเท้าที่ช่วยเสริมการเคลื่อนไหว และ ช่วยพยุงเท้าให้ได้มากที่สุด เนื่องจากเท้าในลักษณะนี้อาจส่งผลเสียต่อส้นเท้าด้านนอก และ ฝ่าเท้าด้านใน ทำให้รู้สึกปวดเมื่อเล่นกีฬาเสร็จ

     ลักษณะของฝ่าเท้า สามารถทดสอบได้ด้วยการจุ่มเท้าในน้ำให้พอเปียก และ เหยียบลงบนกระดาษสีน้ำตาล หากเห็นภาพของฝ่าเท้าทั้งหมดนั่นหมายถึงฝ่าเท้าแบน ซึ่งฝ่าเท้าโค้งน้อย และ โค้งมากลดหลั่นลงมาตามลำดับ

     นอกจากนี้ หากเรามีอุปกรณ์เสริมที่จำเป็นต้องสวมขณะใส่รองเท้า อย่างถุงเท้า หรือ อุปกรณอื่น ๆ ควรนำติดตัวไปด้วยทุกครั้งที่เลือกซื้อรองเท้า เพื่อจะได้เลือกรองเท้าที่กระชับและพอดีสำหรับเท้าเราเอง

3. เหลือพื้นที่ไว้เล็กน้อย

     หลายคนอาจเคยเจอคำถามที่ว่า ในการเลือกซื้อรองเท้าแต่ละคู่ควรเหลือพื้นที่ไว้เท่าไหร่ เนื่องจากการสวมรองเท้าที่แน่นเกินไปอาจทำให้อึดอัด มีความเสี่ยงที่จะเกิดแผล และ รู้สึกไม่สบายเท้า แต่ถ้าเผื่อพื้นที่ไว้มากเกินไปก็อาจทำให้รองเท้าหลุดง่าย และ รู้สึกไม่คล่องแคล่วขณะเล่นกีฬาได้

     เราควรเหลือพื้นที่ระหว่างนิ้วเท้าที่ยาวที่สุด ไปจนถึงขอบด้านหน้าภายในรองเท้าประมาณ 0.9-1.3 เซนติเมตร การเว้นพื้นที่ไว้ประมาณนี้จะช่วยให้เราสวมรองเท้าได้พอดี คล่องตัว ไม่หลุดออกง่าย สบายเท้า และ ลดความเสี่ยงจากการเสียดสี ซึ่งอาจเป็นขนาดที่เหมาะสมกับคนส่วนใหญ่

4. ลองสวม และ ลองวิ่ง

     ในการเลือกซื้อรองเท้าดี ๆ สักคู่ การลองสวมรองเท้าเป็นสิ่งที่คนส่วนใหญ่ทำกันเป็นเรื่องปกติ การลองสวมให้รู้สึกว่าขนาดพอดีอาจเพียงพอต่อรองเท้าลำลอง แต่อาจไม่เพียงพอสำหรับรองเท้า ออกกำลังกาย ดังนั้น จึงควรลองสวมรองเท้า และ เดิน วิ่ง หรือลองใช้ตามประเภทกีฬา อย่างการกระโดด สไลด์ตัวไปด้านข้าง เพื่อดูว่ารองเท้าตรงกับการใช้งานหรือไม่ รวมถึงเมื่อสวมไปสักพักอาจรู้สึกว่าไม่สบายเท้า ปวดเท้า หรือ รู้สึกเจ็บ ซึ่งสิ่งเหล่านี้อาจช่วยให้เลือกรองเท้าที่เหมาะสมได้มากขึ้น

     นอกจากนี้เราควรเลือกซื้อ และ ลองรองเท้าในตอนเย็น เนื่องจากในช่วงเย็นหรือช่วงค่ำขนาดของเท้าจะขยาย และ ใหญ่กว่าในช่วงเช้า ซึ่งการเลือกรองเท้า ออกกำลังกาย ในเวลาเย็น อาจช่วยให้เลือกขนาดรองเท้าที่เข้ากับรูปเท้าได้ดีขึ้น

5. ลงทุน

     รองเท้า ออกกำลังกาย ที่ดี มีคุณภาพ ไม่ว่าจะเป็นด้านความทนทาน หรือ ตอบสนองการใช้งานอาจมีราคาที่สูงขึ้นไปตามลำดับ แต่การเลือกรองเท้า ออกกำลังกาย ที่มีคุณภาพ ก็ควรคำนึงความปลอดภัยด้วย รวมถึงราคารองเท้า อาจเป็นอีกแรงจูงใจหนึ่งที่จะช่วยให้ ออกกำลังกาย สม่ำเสมอ และ มากขึ้น การซื้อรองเท้า ออกกำลังกาย ที่มีคุณภาพดีอาจนับว่าเป็นการลงทุนเพื่อสุขภาพ ซึ่งถ้าหาก ออกกำลังกาย เป็นประจำ และ มีสุขภาพที่แข็งแรงขึ้นก็ถือว่าเป็นสิ่งที่ควรค่าแก่การลงทุน

 

นอกจากนี้การเลือกซื้อรองเท้า ออกกำลังกาย คู่ใหม่ เมื่อคู่เก่าเริ่มมีประสิทธิภาพลดลง ก็ถือเป็นสิ่งที่สำคัญ ที่ผู้เชี่ยวชาญได้กล่าวว่ารองเท้าวิ่ง หรือ รองเท้าเดินอาจเสื่อมสภาพเมื่อใช้งานไปราว 560 กิโลเมตร แต่ถ้าหากรู้สึกไม่สบายเท้า เกิดการบาดเจ็บ ปวดเท้า หรือ ความรู้สึกที่ต่างไปเดิมก็สามารถพิจารณาเลือกซื้อรองเท้า ออกกำลังกาย คู่ใหม่ เพื่อลดความเสี่ยงเกี่ยวกับปัญหาสุขภาพ เมื่อได้รองเท้าดี ๆ สำหรับการ ออกกำลังกาย แล้ว ก็อย่าลืมแวะเข้ามาที่รัชดา ฟิตเนส ( Ratchada Fitness ) 24 ชั่วโมง กันนะคะ

 

อ่านบทความอื่นเพิ่มเติม

ออกกำลังกาย ควบคู่ การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกิน ช่วย ลดต้นขา ได้

เข้า ฟิตเนส ( Fitness ) ประจำ แต่หุ่นยังไม่เฟิร์ม



บทความที่น่าสนใจ

ออกกำลังกายเลี่ยงโรคออฟฟิศซินโดรม
5 ท่าบริหารกล้ามเนื้อก่อนวิ่ง บอกลาอาการบาดเจ็บ